การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไปยัง ยุโรปและสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุม สารเคมีอันตราย (Restricted Substances) เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บทความนี้จะพาคุณรู้จักสารต้องห้ามที่สำคัญ และแนวทางการตรวจสอบให้ผ่านมาตรฐานระดับสากล เช่น RoHS, REACH, PFAS, California Prop 65 และอื่น ๆ พร้อมแนะนำการใช้บริการตรวจสอบโดย SGS
รายชื่อสารต้องห้ามที่ต้องรู้ก่อนส่งออก
1. RoHS (Restriction of Hazardous Substances)
- กฎหมายของสหภาพยุโรปที่จำกัดการใช้สารอันตราย 10 ชนิด เช่น ตะกั่ว (Pb), ปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), โครเมียมหกวาเลนต์ (Cr⁶⁺), PBBs, PBDEs ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท
2. REACH / SVHC / Appendix XVII
- ข้อบังคับด้านสารเคมีของยุโรป โดย SVHC คือกลุ่มสารที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม หากมีเกิน 0.1% ในผลิตภัณฑ์ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบ และบางรายการใน Appendix XVII อาจห้ามใช้โดยสิ้นเชิง
3. PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances)
- กลุ่มสารเคมีที่ใช้ในสารกันน้ำ กันความร้อน และพื้นผิวเคลือบ มักพบในสายไฟ ฉนวน หรือส่วนประกอบภายในของเครื่องใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันถูกห้ามใช้มากขึ้นในหลายประเทศ
4. TSCA (Toxic Substances Control Act)
- กฎหมายควบคุมสารเคมีของสหรัฐอเมริกา หากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีการใช้สารต้องห้ามหรือไม่ได้รับอนุญาตจาก EPA อาจถูกปฏิเสธการนำเข้า
5. California Proposition 65 (Prop 65)
- กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียที่กำหนดให้สินค้าที่มีสารก่อมะเร็งหรือส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ต้องติดป้ายเตือนที่ชัดเจน เช่น ตะกั่ว ฟอร์มาลดีไฮด์ BPA เป็นต้น
6. POPs (Persistent Organic Pollutants)
- สารอินทรีย์ที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม เช่น PCB, Dioxin ซึ่งอาจหลุดออกจากบอร์ดวงจรหรือสารเคลือบ ต้องหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
7. US TPCH (Toxics in Packaging)
- ข้อกำหนดควบคุมสารพิษในบรรจุภัณฑ์ โดยห้ามใช้โลหะหนักเกิน 100 ppm รวมถึง ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท และโครเมียมหกวาเลนต์
8. ISTA (International Safe Transit Association)
- มาตรฐานการทดสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยระหว่างขนส่ง ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจทำให้สารอันตรายรั่วไหล
9. Bisphenol A (BPA)
- สารในพลาสติกและเรซินที่ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน หากใช้ในชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ที่สัมผัสอาหาร อาจถูกจำกัดหรือห้ามใช้
10. Heavy Metals (โลหะหนัก)
- โลหะอันตราย เช่น แคดเมียม ปรอท ตะกั่ว ต้องควบคุมปริมาณให้อยู่ในระดับปลอดภัยตามข้อกำหนดของทุกมาตรฐาน
SGS ผู้ให้บริการตรวจสอบสารต้องห้ามอย่างมืออาชีพด้วยมาตรฐานระดับสากล
การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่ซับซ้อนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตควรใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง SGS ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่ให้บริการด้าน
- การทดสอบและวิเคราะห์สาร RoHS, REACH, PFAS, BPA, โลหะหนัก ฯลฯ
- การประเมินบรรจุภัณฑ์ตามมาตรฐาน TPCH และ ISTA
- การออกใบรับรองคุณภาพที่ยอมรับในระดับสากล
SGS ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ส่งออก ลดความเสี่ยงจากการถูกตีกลับสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้า
หากคุณเป็นผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การทำความเข้าใจกับสารต้องห้ามและข้อบังคับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญเช่น SGS ช่วยให้ธุรกิจของคุณผ่านมาตรฐานระดับโลก และก้าวเข้าสู่ตลาดยุโรปและอเมริกาอย่างมั่นใจ

เกี่ยวกับ SGS
SGS คือ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการทดสอบ การตรวจสอบ และการรับรองระบบ เราดำเนินงานผ่านเครือข่ายที่ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการกว่า 2,500 แห่ง ใน 115 ประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพที่มีความมุ่งมั่นกว่า 99,500 คน ด้วยประสบการณ์กว่า 145 ปีแห่งความเป็นเลิศในการให้บริการ เราผสานความแม่นยำและความเที่ยงตรงที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทสวิส เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ บรรลุมาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพ การปฏิบัติตามข้อกำหนด และความยั่งยืน
คำมั่นสัญญาของแบรนด์เรา – when you need to be sure – ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในด้านความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างมั่นใจ เราภูมิใจนำเสนอบริการจากผู้เชี่ยวชาญของเราภายใต้ชื่อ SGS และแบรนด์เฉพาะทางที่ได้รับความไว้วางใจ เช่น Brightsight, Bluesign, Maine Pointe และ Nutrasource
SGS เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ภายใต้สัญลักษณ์ SGSN (ISIN CH0002497458, Reuters SGSN.S, Bloomberg SGSN:SW)
238 TRR Tower, 19th-21st Floor, Naradhiwas Rajanagarindra Road,
Chong Nonsi, Yannawa, 10120,
กรุงเทพ, ประเทศไทย